ผู้ชายกล่าวว่ายาที่ได้จากใบสั่งของแพทย์ทำให้เขาติดพนันและล้มละลายทางการเงิน

ผู้ชายกล่าวว่ายาที่ได้จากใบสั่งของแพทย์ทำให้เขาติดพนันและล้มละลายทางการเงิน

การใช้ยา Dopamine Agonist เพิ่งเปิดเผยเรื่องกังวลเรื่องควบคุมพฤติกรรมของผู้ชาย

ผู้ชายจากฮัมป์เชียร์ได้ระบุว่ายาเพื่อรักษาอาการ Restless Leg Syndrome (RLS) ทำให้เขามีความต้องการในการพนันอย่างไม่ยั้ง ซึ่งส่งผลให้เขาตกลงในปัญหาทางการเงินขนาดใหญ่ ฟิล สตีเวนส์ อายุ 66 บอกว่าในขณะที่เขาใช้ ropinirole เขาใช้เงินออมทั้งหมดและต้องขายบ้านเช่าที่เขาเป็นเจ้าของเพื่อบรรลุแผนการเกษียณ

การใช้ Dopamine Agonist ก่อให้เกิดความกังวลเมื่อผู้ชายเจอปัญหาการควบคุมพฤติกรรม

ropinirole ยาที่เลียนแบบดอปามีน ที่ส่งผลให้คนไข้ในสหราชอาณาจักรสำหรับโรคสมองเช่นโรคพาร์กินสันและ RLS ข้อมูลข้างข้างของผลข้างเคียงระบุไว้ในคู่มือยาและบนเว็บ สตีเวนส์บอกว่าไม่มีใครบอกเขาเลยเรื่องโอกาสที่จะเกิดปัญหาควบคุมพฤติกรรม เขาว่าถ้ามีคนบอกเขาก่อนหน้านี้ คงไม่ได้รับยา รายงานจาก BBC News

ในระหว่าง 4 ปีที่ใช้ ropinirole สตีเวนส์พบว่าตัวเขาตัวเขาไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ในตอนกลางคืน การใช้เงินอย่างรุนแรงของเขาไม่หยุดที่การพนัน – เขายังซื้อสิ่งของใหญ่ๆโดยไม่คิดอีกครั้ง เช่นเขาใช้เงิน 6,500 ปอนด์สเตอร์ล้อ

ครอบครัวของเขาไม่รู้ว่ายาสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียง เขาคิดว่าพฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไปเพราะโรคหลอดประสาทอักเสบหลายประการ (MS) สภาพภาวะที่เขามีเช่นกัน เมื่อเขาพยายามเข้าร่วมการศึกษายา MS หมอบอกเขาให้หยุดใช้ ropinirole ทันที เขาศึกษายาและพบว่าคนอื่นก็มีปัญหาเดียวกันกับพฤติกรรมที่พวกเขาไม่สามารถควบคุม

เรียกร้องให้การฝึกอบรมแพทย์ทั่วไปดีขึ้นหลังจากผู้ชายฟ้องร้องเรื่องความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน ropinirole

สตีเวนส์ตัดสินใจฟ้องหมอของเขา เขาได้รับจำนวนเงิน 70,000 ปอนด์ในที่สุด แต่ไม่ได้รับการรับผิดชอบใดๆ ทางทนายความของเขา แอนการัด วอน จาก Leigh Day กล่าวว่ามีการคดีแบบนี้ก่อนหน้านี้ ซึ่งการฟ้องหมอจะย้อนกลับไปอย่างน้อยถึงปี 2015 เธอคิดว่าหากมีผู้รู้เรื่องนี้มากขึ้น อาจช่วยให้คนไข้ปลอดภัยขึ้น

จูลี กูลด์ ผู้พูดในนามของมูลนิธิเพื่อ RLS ในสหราชอาณาจักรต้องการให้แพทย์จากฝ่ายประกอบการแพทย์ฝึกอบรมดีขึ้นเรื่องการรักษา RLS เธอคิดว่าแพทย์ควรให้ยา dopamine agonists เฉพาะในกรณีที่ร้ายแรงมากเช่นเมื่อคนไข้อยู่ใกล้สุดของชีวิตและสิ่งนี้จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงที่แย่

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์รับรู้ถึงความกังวลด้านนี้ ดร.ไมเคิล มัลฮอลแลนด์ รองประธานสภาแพทย์ระดับบริษัทราชวิทยาการรับรองว่า RLS จะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการอบรมแพทย์ทั่วไปปรับปรุงใหม่ในปี 2025

ในเวลาเดียวกัน GlaxoSmithKline ผู้ผลิต ropinirole ภายใต้ชื่อ Requip ยืนยันว่ายาได้รับการทดลองอย่างละเอียดซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนล้านคนรับการรักษาตั้งแต่เริ่มใช้ในปี 1996

บริษัทเน้นว่าข้อมูลในการสั่งยาแสดงให้เห็นถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ สตีเวนส์ถอยกลับไปที่การต่อสู้ของตัวเขา เขาโปรดเกล้าฯให้คนไข้ถามคำถามอย่างละเอียดก่อนที่จะยอมรับยาที่สั่งให้ เขาเน้นว่าสิ่งสำคัญคือต้องให้ความสำคัญกับการตัดสินใจที่สามารถรับรู้ได้ เขายอมรับว่าถึงแม้เขาจะไม่สามารถบอกให้คนอื่นไม่ใช้ ropinirole การทราบความเสี่ยงที่เป็นไปได้เป็นสิ่งจำเป็น

การบทวิจารณ์การใช้ยา Dopamine Agonist เพื่อการรักษาโรค

การเรียกร้องให้การฝึกอบรมแพทย์ทั่วไปดีขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ผู้ชายฟ้องร้องเรื่องความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน ropinirole เปิดโอกาสให้ชุมชนแพทย์และนักวิชาการเรียนรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากยา dopamine agonists อย่างชัดเจน

การฝึกอบรมที่ดีขึ้นจะช่วยให้แพทย์เข้าใจและรับรู้ถึงผลข้างเคียงของยา dopamine agonists และจะสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในการตัดสินใจเลือกใช้ยาที่เหมาะสมมากขึ้น

การวิจัยและพัฒนายา Dopamine Agonist

เรื่องของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา dopamine agonists เป็นเรื่องที่ยังต้องการการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมเป็นอย่างมาก เพื่อเข้าใจสมบัติที่แท้จริงของยาและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยได้ดีขึ้น

การวิจัยและพัฒนายา dopamine agonists ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรมเภสัชกรรมในปัจจุบัน

การให้ความสำคัญกับการตัดสินใจที่รับรู้ได้เมื่อใช้ยา

สิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญเมื่อใช้ยาใดๆคือการตัดสินใจที่สามารถรับรู้ได้ ผู้ป่วยควรถูกเรียนรู้และเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้จากยาที่ใช้ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเลือกยาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากขึ้น

การเสริมสร้างการเข้าใจและการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยเกี่ยวกับการรักษาโรคและผลข้างเคียงของยาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย